หนังสือพระราชนิพนธ์
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี



พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.2539
ประเทศ โปแลนด์ เช็ก อิตาลี สโลวัก ฝรั่งเศส
กลับไปหน้าที่แล้ว

ยามลมหนาว


     พระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๓๕ บันทึกเรื่องราวหลากหลายที่น่าสนใจระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐโปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก สาธารณรัฐอิตาลี สาธารณรัฐสโลวัก และสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ ๑๓-๒๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๙  อันเป็นการเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์เยือนสาธารณรัฐโปแลนด์ ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของประธานาธิบดีโปแลนด์ 

     เสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินพระที่นั่งจากกรุงเทพ ฯ ไปยังนครแฟรงค์เฟิร์ต สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และประทับเครื่องบินพระที่นั่งสายการบินลุฟฮันซ่า เสด็จ ฯ ต่อไปยังกรุงวอร์ซอ สาธารณรัฐโปแลนด์ ณ กรุงวอร์ซอ เสด็จ ฯ ไปยังเรือนรับรองของรัฐบาล ชื่อ พาร์โกวา ซึ่งเป็นรัฐบาลจัดถวายเป็นที่ประทับ จากนั้น เสด็จ ฯ ไปทรงพบนายอเล็กซานเดอร์ ฟาสเนียฟสกี้ (Mr Alexander Kwasniewski) ประธานาธิบดีโปแลนด์คนใหม่ ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งในวันที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ ณ ทำเนียบประธานาธิบดี แล้วเสด็จ ฯ ไปทรงวางพวงมาลา ณ สุสานทหารนิรนาม เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรบ้านเกิดของคีตกวี เฟรเดอริก โชแปง (ค.ศ. ๑๘๑๐ – ๑๘๔๙) ที่เชลาโซวาโวลา ในช่วงค่ำ เสวยพระกระยาหารค่ำ ประธานาธิบดีจัดถวาย ณ ทำเนียบประธานาธิบดี

     วันต่อมา ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จ ฯ ไปยังเมืองคราคูฟ เมืองหลวงเก่าของโปแลนด์ (ระหว่าง ค.ศ. ๑๐๔๐-๑๕๙๖) เมืองคราคูฟนี้ องค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่สำคัญทางมรดกโลกด้านวัฒนธรรม เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรร้านขายของต่าง ๆ ในตลาดประจำเมือง ต่อจากนั้น เสด็จ ฯ ไปยังปราสาทฟาเฟิล ซึ่งเป็นที่ประทับของกษัตริย์โปแลนด์เป็นเวลากว่า ๕๐๐ ปี ทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงงานศิลปะเป็นห้องต่าง ๆ อาทิ The Tournament Room, The Military Room, Throne Room หรือ Audience Hall เป็นต้น จากนั้น เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรมหาวิหารฟาเฟิล มีลักษณะของศิลปะผสมผสานทั้งแบบโรมาเนสก์และแบบโกธิค เป็นศูนย์กลางของโปแลนด์มาตั้งแต่ก่อนคริสต์ศตวรรษที่ ๑๔  ต่อมา เสด็จ ฯ ไปยังมหาวิทยาลัยยาเกียโลเนียน เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดในโปแลนด์

     ในช่วงบ่าย เสด็จ ฯ ไปยังพิพิธภัณฑ์ซาตอรีสกี้ เป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนบุคคลด้านประวัติศาสตร์ และเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เก่าแก่ที่สุดในโปแลนด์ จากนั้น เสด็จ ฯ ไปเหมืองเกลือ (Salt Mine “Wieliczka”) มีพิพิธภัณฑ์เหมืองเกลือซึ่งลึกจากพื้นดินประมาณ ๑๓๕ เมตร ในค.ศ. ๑๙๗๘ ยูเนสโกประกาศเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ

     วันต่อมา เสด็จ ฯ ไปยังห้องสมุดมหาวิทยาลัยยาเกียโลเนียน ซึ่งเป็นหอสมุดแห่งชาติของโปแลนด์ และห้องสมุดประชาชนด้วย ทอดพระเนตรหนังสือโบราณที่มีการเก็บรักษาอย่างดี จากนั้นเสด็จ ฯ ไปยังเขตเมืองเก่า ทอดพระเนตรโบสถ์เซนต์แมรี ซึ่งเป็นโบสถ์โบราณประจำเขต (Parish Church) สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ ๑๓ เสด็จ ฯ ไปยังปราสาทเพียซโกวา สกาวาอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Ojcow ในช่วงบ่าย ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จ ฯ กลับกรุงวอร์ซอ

     เสด็จ ฯ ไปยังรัฐสภา ทรงพบประธานสภาผู้แทนราษฎร นายยอแซฟ ซิค และประธานวุฒิสภา นายอดัม สตรูซิค จากนั้น เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรเขตเมืองเก่า  ทรงพระดำเนินในจัตุรัสซึ่งเป็นแหล่งชุมชนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ ๑๓ ต่อจากนั้น เสด็จ ฯ ไปทรงพบนายกรัฐมนตรีโปแลนด์ นายวอจีเมียซ  ซิมอเซวิช และประทับเสวยพระกระยาหารกลางวัน นายกรัฐมนตรีจัดถวาย ณ Palace in Forsal Street 

     ในช่วงบ่าย เสด็จ ฯ ไปยังสวนวาเซียนกิ ซึ่งเคยเป็นที่สรงน้ำของกษัตริย์ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ ๑๗ ทอดพระเนตรวังวาเซียนกิที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จ ฯ มาประทับและมีพระราชหัตถเลขาว่าเหมือนพระราชวังบางปะอินเพราะอยู่กลางสระน้ำ ต่อจากนั้น เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  และเสด็จ ฯ ไปยังโรงละครแห่งชาติเพื่อทอดพระเนตรโอเปรา เรื่อง Halka

     วันต่อมา ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จ ฯ ไปยังกรุงปราก เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก เป็นการส่วนพระองค์ ทรงพระดำเนินชมเมืองปราก เขตเมืองเก่า (Old Town Square) แถบที่อยู่ชาวยิว (Jewish Quarter) ศาลาว่าการเมือง  นาฬิกาดาราศาสตร์ ซึ่งบอกข้อมูลวัน เดือน ปี และเวลา สะพานชาร์ลส์ โบสถ์เซนต์ นิโคลัส ทอดพระเนตรทิวทัศน์และชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเช็ก

     เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรปราสาทปราก วิหาร St. Vitus แล้วทรงพระดำเนินไปตามถนนสายสั้น ๆ ที่เคยเป็นถิ่นช่างทอง ชื่อว่า Golden Lane มีคุกโบราณ โรงละครเก่า พิพิธภัณฑ์ของเล่น เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรห้องสมุดของ Strahov Abbey ในช่วงบ่าย ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จ ฯ ไปยังเมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี

     เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรภาพเขียน The Last Supper ของลิโอนาร์โด ดา วินชี  ณ Convento della Chiesa di S. Maria della Grazie แล้วเสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรวิหารดูโอโม และพิพิธภัณฑ์ของวิหาร

     วันต่อมา เสด็จ ฯ ไปยัง European Commission Joint Research Centre (JRC) เป็นศูนย์รวมการให้บริการเรื่องห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ และเป็นสำนักทางวิทยาศาสตร์ของยุโรป เพื่อรวบรวมนักวิทยาศาสตร์ เพื่อให้สหภาพยุโรปมีความสามารถแข่งขันได้ในด้านอุตสาหกรรม ทรงร่วมฟังบรรยายทางวิชาการเกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ ของ JRC ในช่วงบ่าย ทรงเยี่ยมชม European Microwave Signature Laboratory (EMSL) ที่ดำเนินงานสนับสนุนการใช้ไมโครเวฟในกิจการต่าง ๆ

     ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จ ฯ ไปยังเมืองปีซ่า แล้วประทับรถยนตร์พระที่นั่ง เสด็จ ฯ ไปยังเมืองคาราร่า ทอดพระเนตรโรงเรียนสอนการสลักหิน เหมืองหินอ่อนไมเคิล แองเจโล จากนั้น ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จ ฯ ไปยังกรุงบราติสลาวา สาธารณรัฐสโลวัก (ชื่อเดิม สโลวาเกีย) เสด็จ ฯ ไปทรงพบประธานาธิบดี นายมิคาล โควาซ และภริยา และเสวยพระกระยาหารค่ำ ประธานาธิบดีจัดถวาย ณ ทำเนียบประธานาธิบดี

     เสด็จ ฯ พร้อมด้วยประธานาธิบดี ไปทอดพระเนตรโรงงานผลิตเครื่องเซรามิก เมืองโมดรา  แล้วประทับเครื่องบินพิเศษของประธานาธิบดีไปยังเมือง Poprad ประทับเสวยพระกระยาหารกลางวัน นายกเทศมนตรีจัดถวาย ณ โรงแรม Patria ในช่วงบ่าย เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรสถานที่เล่นสกีหิมะ

     ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จ ฯ ไปยังกรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส เป็นการส่วนพระองค์ ทรงพระดำเนินไปทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์ Le Musée Marmottan เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เก่า Palais de la Decouverte